1.ท่านคิดว่าทำไมมนุษย์เราต้องมีกฎหมายหากไม่มีจะเป็นอย่างไร
ตอบ มนุษย์เป็นสัตว์อันประเสริฐที่เกิดตามธรรมชาติที่มีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
แต่มนุษย์ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวตามลำพังได้ จำเป็นต้องอาศัยพึ่งพาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอยู่รวมกันเป็นสังคมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตและอยู่รอดได้
การอยู่ร่วมกันของมนุษย์ ก่อให้เกิดความขัดแย้ง มีการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย
สาเหตุมาจากความไม่พึงพอใจ มีการแก่งแย่ง การ
แก้แค้นซึ่งกันและกัน
ถ้ามีการใช้กาลังกันบ่อยเข้าสังคมมนุษย์จึงไม่อาจดำรงอยู่ได้ จึงอาจกล่าวได้ว่า
ศีลธรรม จารีตประเพณี ศาสนา
และกฎหมายเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์
2.ท่านคิดว่าสังคมปัจจุบันจะอยู่ได้หรือไม่หากไม่มีกฎหมายจะเป็นอย่างไร
ตอบ สังคมปัจจุบันจะอยู่ไม่ได้
เพราะขนาดมีกฎหมายบังคับใช้ไว้แล้วก็ยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอยู่
ถ้าไม่มีกฎหมายสังคมก็จะเกิดความวุ่นวายมากขึ้นกว่านี้เป็นทวีคูณ
และถ้าขาดคุณธรรมกันด้วย สังคมก็จะไม่เป็นสังคมอีกต่อไป
3.ท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายในประเด็นต่อไปนี้
ตอบ ก.ความหมาย
กฎหมาย คือ คาสั่งหรือข้อบังคับที่เกิดจากรัฎฐาธิปไตย์
จากคณะบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดของรัฐ เป็นข้อบังคับใช้กับคนทุกคนที่อยู่ในรัฐหรือประเทศนั้น
ๆ จะต้องปฏิบัติตามและมีสภาพบังคับที่มี การกำหนดบทลงโทษ
ข.ลักษณะหรือองค์ประกอบของกฎหมาย
1. เป็นคำสั่งหรือข้อบังคับที่เกิดจากรัฎฐาธิปไตย์ที่องค์กรหรือคณะบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดอาทิ
รัฐสภาฝ่ายนิติบัญญัติ หัวหน้าคณะปฏิวัติ กษัตริย์ในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
สามารถใช้อำนาจบัญญัติกฎหมายได้
2. มีลักษณะเป็นคำสั่งข้อบังคับ อันมิใช่คาวิงวอน ประกาศ หรือแถลงการณ์ อาทิ
ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ คาแถลงการณ์ของคณะสงฆ์
ให้ถือเป็นแนวปฏิบัติมิใช่กฎหมาย สาหรับคาสั่งข้อบังคับที่เป็นกฎหมาย
3. ใช้บังคับกับคนทุกคนในรัฐอย่างเสมอภาค เพื่อให้ทุกคนเกรงกลัวและถือปฏิบัติสังคมจะสงบสุขได้
4. มีสภาพบังคับ
ซึ่งบุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเฉพาะการกระทาและการงดเว้นการกระทำตามกฎหมายนั้น
ๆ กำหนด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษหรือไม่ก็ได้
และสภาพบังคับในทางอาญาคือ โทษที่บุคคลผู้ที่กระทาผิดจะต้องได้รับโทษ
ค.ที่มาของกฎหมาย
กฎหมายในแต่ละประเทศมีที่มาแตกต่างกัน ส่วนของประเทศไทย
พอที่จะสรุปได้ 5 ลักษณะ ดังนี้
1. บทบัญญัติแห่งกฎหมาย เป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร
2. จารีตประเพณี
เป็นแบบอย่างที่ประชาชนนิยมปฏิบัติตามกันมานาน หากนำไปบัญญัติเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรแล้วย่อมมีสภาพไปเป็นกฎหมาย
3. ศาสนา
มีข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ดีซึ่งทุก ๆ ศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี
4. คำพิพากษาของศาลหรือหลักบรรทัดฐานของคำพิพากษา
5. ความเห็นของนักนิติศาสตร์
ง. ประเภทของกฎหมาย
ประเภทของกฎหมายที่ใช้ในประเทศไทย
มีดังนี้
ก. กฎหมายภายใน มีดังนี้
1.
กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
2.
กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญาและกฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง
3. กฎหมายสารบัญญัติและกฎหมายวิธีสบัญญัติ
4. กฎหมายมหาชน
และกฎหมายเอกชน
ข. กฎหมายภายนอก มีดังนี้
1. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง
2.
กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
3.
กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา
4.ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรว่า
ทำไมทุกประเทศจำเป็นต้องมีกฎหมายจงอธิบาย
ตอบ เพราะทุกประเทศต้องการมีความเป็นอยู่ที่ดีและมั่นคง
จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายไว้บังคับใช้ เพื่อให้การอยู่รวมกันเป็นสังคมที่สงบสุข
มีแนวปฏิบัติร่วมกัน
5.สภาพบังคับในทางกฎหมายท่านมีความเข้าใจอย่างไรจงอธิบาย
ตอบ เป็นข้อบังคับที่ทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตาม
เพื่อการดำรงอยู่ในสังคมเดียวกัน
6. สภาพบังคับกฎหมายในอาญาและทางแพ่ง
มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ สภาพบังคับกฎหมายทางอาญาและทางแพ่งมีความแตกต่างกัน
คือ กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญา เป็นโทษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง
ใช้ลงโทษกับผู้กระทำผิดทางอาญา ส่วนกฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง
ได้บัญญัติถึงสภาพบังคับลักษณะต่างๆ
กันไว้สำหรับลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่กระทำตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
7.ระบบกฎหมายเป็นอย่างไรจงอธิบาย
ตอบ ระบบกฎหมายแบ่งเป็น 2 ระบบดังนี้
1. ระบบซีวิลลอร์ (Civil Law System) หรือระบบลายลักษณ์อักษร
เป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่มีความสาคัญกว่าอย่างอื่น
คำพิพากษาของศาลไม่ใช่ที่มาของกฎหมาย
แต่เป็นบรรทัดฐานแบบอย่างของการตีความกฎหมายเท่านั้น
2. ระบบคอมมอนลอว์ (Common Law System) เป็นการพัฒนามาจากกฎหมายที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
นำเอาจารีตประเพณีและคำพิพากษา
ซึ่งเป็นบรรทัดฐานของศาลสมัยเก่ามาใช้
จนกระทั่งเป็นระบบกฎหมายที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง
8.ประเภทของกฎหมายมีหลักการแบ่งอย่างไรบ้าง
มีกี่ประเภท แต่ละประเภทประกอบด้วย
อะไรบ้างยกตัวอย่างอธิบาย
ตอบ การแบ่งประเภทกฎหมายที่จะนำไปใช้นั้นมีรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกัน
หากเราจะพิจาณาแบ่งประเภทของกฎหมายออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ
แบ่งได้หลายลักษณะขึ้นอยู่กับว่าเราใช้อะไรเป็นหลักในการแบ่ง ได้แก่
ก. แบ่งโดยแหล่งกำเนิด
อาจแบ่งออกได้เป็นกฎหมายภายในและกฎหมายภายนอก
1. กฎหมายภายใน มีหลักในการแบ่งย่อยออกไปได้อีก เช่น
- แบ่งโดยถือเนื้อหาเป็นหลัก คือ
กฎหมายลายลักษณ์อักษรและกฎหมายที่ไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษร
- แบ่งโดยถือสภาพบังคับกฎหมายเป็นหลัก
คือ กฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง
- แบ่งโดยถือลักษณะเป็นหลัก
แบ่งได้เป็น กฎหมายสารบัญญัติ และกฎหมายวิธีสบัญญัติ
- แบ่งโดยถือฐานะและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนเป็นเกณฑ์
แบ่งได้เป็น กฎหมายมหาชน และกฎหมายเอกชน
2. กฎหมายภายนอก เป็นกฎหมายระหว่างประเทศ แบ่งตามลักษณะของฐานะความสัมพันธ์
เช่น
- แบ่งเป็นกฎหมายประเภทแผนกคดีเมือง ส่วนที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ
ต่อรัฐ
- แบ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
ส่วนที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในรัฐหนึ่งกับบุคคลในอีกรัฐหนึ่ง
- แบ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา
เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยข้อตกลงระหว่างรัฐในการร่วมมืออย่างถ้อยทีถ้อยปฏิบัติในการปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศและส่งตัวผู้ร้ายข้ามประเทศให้แก่กัน
๙.ท่านเข้าใจถึงคำว่าศักดิ์ของกฎหมายคืออะไร
มีการแบ่งอย่างไร
ตอบ ศักดิ์ของกฎหมาย คือ การจัดลำดับแห่งค่าบังคับของกฎหมาย
หรืออาจกล่าวได้ว่าอาศัยอำนาจขององค์กรที่ใช้อำนาจจากองค์กรที่แตกต่างกัน
มีการแบ่งโดยอาศัยหลักว่า กฎหมายหรือบทบัญญัติใดของกฎหมายที่อยู่ในลำดับที่ต่ำกว่า
จะขัดหรือแย้งกับกฎหมายในลำดับที่สูงกว่าไม่ได้
โดยพิจารณาจากองค์กรที่มีอำนาจในการออกกฎหมาย โดยใช้เหตุผลที่ว่า
1. การออกกฎหมายโดยฝ่ายนิติบัญญัติ
ควรจะเป็นกฎหมายเฉพาะที่สำคัญ เป็นการกำหนดหลักการและนโยบายเท่านั้น
2. การให้รัฐสภา เป็นการทุ่นเวลา และทันต่อความต้องการและความจำเป็นของสังคม
3.
ฝ่ายบริหารหรือองค์กรอื่นจะออกกฎหมายลูกจะต้องอยู่ในกรอบของหลักการและนโยบายในกฎหมายหลักฉบับนั้น
10.เหตุการณ์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 มีเหตุการณ์ชุมนุมของประชาชน
ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และประชาชนได้ประกาศว่า จะมีการประชุมอย่างสงบ
แต่ปรากฏว่ารัฐบาลประกาศเป็นเขตพื้นที่ห้ามชุมนุมและขัดขวางไม่ให้ประชาชนชุมนุมอย่างสงบ
ลงมือทำร้ายร่างกายประชาชน
ในฐานะท่านเรียนวิชานี้ท่านจะอธิบายบอกเหตุผลว่ารัฐบาลกระทำ
ผิดหรือถูก
ตอบ ดิฉันคิดว่าถ้าในแง่ของสิทธิเสรีภาพของประชาชนพวกเขาทำถูกต้องแล้วที่ไม่นอนหลับทับสิทธิของตังเองที่พึงมีและในแง่ของรัฐบาลอาจจะผิดในส่วนของการปรองดองให้เกิดสิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่
ผิดฐานที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนซึ่งต้องปฏิบัติไปตามหลักประชาธิปไตย
11.ท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคำ
ว่ากฎหมายการศึกษาอย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ กฎหมายการศึกษา คือ
บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับกฎหรือคำสั่งหรือข้อบังคับของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่สถาบันหน่วยงานผู้มีอำนาจได้ตราขึ้นและมีผล
บังคับใช้
ดังนั้นครูและบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจกฎหมายการศึกษาให้มากขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง
เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการศึกษาของชาติอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป
12. ในฐานะที่นักศึกษาจะต้องเรียนวิชานี้ถ้าเราไม่ศึกษากฎหมายการศึกษาท่านคิดว่า
เมื่อท่าน ไปประกอบอาชีพครูจะมีผลกระทบต่อท่านอย่างไรบ้าง
ตอบ ส่งผลต่อตัวเราเองและนักเรียนของเราด้วย คือ
บางครั้งเราอาจทำการลงโทษเด็กโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะการลงโทษบางประการอาจผิดต่อกฎหมายการศึกษาจะส่งผลให้เราเสียชื่อเสียงและเสียภาพพจน์ของสถาบันด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น